ศิลปวัฒนธรรมในดินเเดนเมโสโปเตเมีย
เมโสโปเตเมีย(Mesopotamia) หรือ "ดินแดนระหว่างแม่น้ำแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทีสดินแดนดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "ดินแดนรูปพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์" ได้ชื่อว่าดินเเดนเเห่งศิลปวัฒนธรรมที่มีอายุเก่าเเก่ที่สุดในโลก
คนกลุ่มแรกที่สร้างอารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้นคือชาวสุเมเรียน อารยธรรมที่ชาวสุเมเรียนขึ้นเป็นพื้นฐานสำคัญของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย สถาปัตยกรรม ตัวอักษร ศิลปกรรมอื่น ๆ ตลอดจนทัศนคติต่อชีวิตและเทพเจ้าของชาวสุเมเรียน ได้ดำรงอยู่และมีอิทธิพลอยู่ในลุ่มแม่น้ำทั้งสองตลอดช่วงสมัยโบราณ
กลุ่มชนต่างๆที่เคยมีอำนาจเเละสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมเหนือดินเเดนเมโสโปเตเมีย ได้เเก่
ชาวสุเมเรียน
ชาวอัคคาเดีย (Akkadians)
ชาวอมอไรต์ (Amorites)
ชาวแอสซีเรียน (Assyrian)
คนกลุ่มแรกที่สร้างอารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้นคือชาวสุเมเรียน อารยธรรมที่ชาวสุเมเรียนขึ้นเป็นพื้นฐานสำคัญของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย สถาปัตยกรรม ตัวอักษร ศิลปกรรมอื่น ๆ ตลอดจนทัศนคติต่อชีวิตและเทพเจ้าของชาวสุเมเรียน ได้ดำรงอยู่และมีอิทธิพลอยู่ในลุ่มแม่น้ำทั้งสองตลอดช่วงสมัยโบราณ
กลุ่มชนต่างๆที่เคยมีอำนาจเเละสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมเหนือดินเเดนเมโสโปเตเมีย ได้เเก่
ชาวสุเมเรียน
ชาวอัคคาเดีย (Akkadians)
ชาวอมอไรต์ (Amorites)
ชาวแอสซีเรียน (Assyrian)
ชาวสุเมเรียน
ชาวสุเมเรียน เป็นคนกลุ่มแรกที่มีอำนาจครอบครองดินแดนเมโสโปเตเมียในบริเวณลุ่มแม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรทีส ( Tigris – Euphrates) ปัจจุบันคือ ประเทศอิรัก เป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดอารยธรรมในแถบลุ่มแม่น้ำไทกริส – ยูเฟรทีส มีการปกครองแบบนครรัฐ สภาพภูมิอากาศ แบบกึ่งทะเลทรายไม่เอื้อต่อการตั้งถิ่นฐาน เพราะเป็นดินแดนแห่งความขัดแย้งทางธรรมชาติเกิดอากาศวิปริตแปรปรวนอยู่เสมอ สภาพภูมิอากาศที่เลวร้าย จึงมีผลให้พวกเมโสโปเตเมียมองโลกในแง่ร้าย เห็นตัวเองเป็นทาสของพระเจ้า สังคมของชาวสุเมเรียนจึงยกย่องเกรงกลัวเทพเจ้าและถือเป็นหน้าที่หลักของทุกคนที่ต้องรับใช้เทพเจ้า ความเชื่อดังกล่าวมีผลให้วัฒนธรรมสุเมเรียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับศาสนา ชาวสุเมเรียนนิยมสร้างวัดขนาดใหญ่ เรียกว่า ซิกกูแรต ( Ziggurat ) เพื่อบูชาเทพเจ้า เป็น สถาปัตยกรรมคล้ายภูเขาขนาดใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ที่ประทับของเทพเจ้าต่าง ๆ สร้างด้วยอิฐตากแห้ง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่แวดล้อมด้วยบ้านเรือนและกำแพงเมือง
ผลงานที่สำคัญ
รู้จักประดิษฐ์อักษร เรียกว่า อักษรลิ่ม หรือ คูนิฟอร์ม ( Cuneiform) เป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ แทนความหมายของคำ เพื่อประโยชน์ทางด้านศาสนกิจ เป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเก่าแก่ที่สุเมเรียน วรรณกรรม ที่สำคัญ คือ มหากาพย์กิลกาเมซ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยของวีรบุรุษทีแสวงหาชีวิตอมต มีความเจริญทางด้านคณิตศาสตร์ รู้จักการใช้จำนวนที่สามารถแบ่งออกเป็นส่วนย่อย เช่น เลขฐาน6,,60,360,600,3600 รู้จักวิธีคูณ หาร ยกกำลัง ถอดรากกำลังที่สอง และที่สาม การคำนวณหาพื้นที่ของวงกลม การกำหนดมาตราชั่ง ตวง วัด