ศิลปวัฒนธรรมโรมัน
บริเวณที่ตั้งของกรุงโรมมีพวกอิทรัสกันครอบครองได้รับอารยธรรมของกรีก และเอเชียไมเนอร์ พวกอิทรัสกันมีถิ่นเดิมอยู่ในเอเชียไมเนอร์ อพยพเข้ามาในแหลมอิตาลีได้นำความเชื่อในศาสนาของกรีก ศิลปะการแกะสลัก การทำเครื่องปั้นดินเผา อักษรกรีก การหล่อทองแดงและบรอนซ์ การปกครองแบบนครรัฐ การวางผังเมือง การสร้างอาวุธ เข้ามาเผยแพร่ ในบริเวณแหลมอิตาลียังเป็นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพจากเผ่าอื่น ๆ ได้แก่ พวกละตินซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวโรมันในแถบที่ราบละตินทางตอนใต้ของแม่น้ำไทเบอร์ มีอาชีพเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ และได้ขับไล่กษัตริย์อิทรัสกันออกจากบัลลังก์และจัดตั้งโรมเป็นสาธารณรัฐ แต่อำนาจการปกครองตกเป็นของชนชั้นสูง เรียกว่า พวกเเพรททรีเชียน พวกราษฎรสามัญหรือเพลเบียน ไม่มีสิทธิใดในสังคมและการเมือง ความขัดแย้งระหว่างพวกพาทรีเซียนและเพลเบียนนำสู่การต่อสู้ระหว่างชนชั้นทั้งสองและการออกประมวลกฎหมายฉบับแรกของโรมัน เรียกว่า กฎหมายสิบสองโต๊ะ ( Law of the Twelve Tables ) เพื่อใช้บังคับให้ชาวโรมันทุกคนปฏิบัติอยู่ในกรอบเดียวกันของกฎหมายและสังคม นับเป็นมรดกชิ้นสำคัญของโรมที่ถือว่าเป็นแม่บทของกฎหมายโลกตะวันตก ( โรมันรับมาจากเปอร็เซีย )โรมันทำสงครามพูนิก กับพวกคาร์เทจที่ตั้งอาณาจักรบริเวณเหนือของทวีปแอฟริกา คาร์เทจเป็นฝ่ายแพ้ต้องสูญเสียอาณาจักรเปิดโอกาสให้โรมันเป็นเจ้าเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ผูกขาดการค้าระหว่างยุโรปตะวันตกกับยุโรปตะวันออกและเอเชียไมเนอร์ มีฐานะมั่งคั่งและมีอำนาจปกครองดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลเมื่อ 27 ปีก่อนคริสต์ศักราช โรมันได้ยุติการปกครองในระบอบสาธารณรัฐและหันมาใช้การปกครองแบบจักรวรรดิอย่างเป็นทางการ ออคเทเวียน ( Octavian ) ได้รับสมญานามว่า ออกัสตัส ( Augustus ) และสภาโรมันยกย่องให้เป็นจักรพรรดิ พระองค์แรกของจักรวรรดิโรมัน โรมันเจริญสูงสุดและสามารถขยายอำนาจและอิทธิพลไปทั่วทั้งทวีปยุโรป มีการสร้างถนนทั่วไปเพื่อสะดวกในการลำเลียงสินค้าและทหารตลอดจนส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในแขนงต่าง ๆ ในคริสคต์ศตวรรษที่ 5 จักรวรรดิโรมันได้อ่อนแอกรุงโรมถูกพวกอนารยชนเผ่าเยอรมันหเข้าปล้นสะดมหลายครั้ง จักรพรรดิของโรมันองค์สุดท้ายถูกอนายรชนขับออกจากบัลลังก์ ค.ศ. 476 ถื